***รูปสวย ๆ จาก Stumptown Coffee ***
ในช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ร้านกาแฟเกิดขึ้นเยอะมาก ๆ ซึ่งการที่มีคนสนใจในการทำธุรกิจร้านกาแฟจำนวนมาก มาจากหลายเหตุผล อย่างเช่น….
1.ชอบ และหลงไหลในกาแฟอยู่แล้ว
2.เบื่องานประจำ, ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี ทำร้านกาแฟละกัน
3.เห็นคนอื่นทำแล้วดี ก็เลยอยากทำบ้าง
4.ภาพของร้านกาแฟสวยๆ ที่เห็น และให้ความรู้สึกว่า เปิดร้านกาแฟแล้วดูดี สบาย (ซึ่งไม่สบายหรอก)
จึงทำให้ร้านกาแฟ เป็นธุรกิจยอดนิยม อย่างนึงเลย และเกิดแฟรนไชส์น้อย ใหญ่ ขึ้นมาอย่างมากมาย เพื่อรองรับกับปริมาณผู้ที่สนใจอยากเปิดร้านกาแฟ
ถ้าคุณคิดจะเปิดร้านกาแฟ คุณควรทำอะไร ?
1.สำรวจตัวเอง ว่า สาเหตุ ที่คุณอยากเปิดร้านกาแฟ คืออะไร ? และ คุณพร้อมจะลุย หรือยัง
ซึ่งแน่นอนว่า คุณต้องพร้อมรับกับความเหนื่อย เพราะ การเปิดร้านกาแฟนั้น ไม่ได้ สบาย ไม่ได้ชิล เหมือนที่เห็นในภาพยนต์, ละคร หรือ ซีรีย์ ต่าง ๆ (ถ้าชิล แบบนั้น ก็ เตรียมเจ๊ง ล่ะครับ)
2.ตัดสินใจเลือกแนวทาง
ว่า อยากจะทำตามแบบแผนที่ผู้อื่นกำหนดไว้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้ (แฟรนไชส์) หรือ คิดเองทำเองเลือกเอง (หรือเรียกว่า ร้านแนวอินดี้)
ซึ่งแน่นอนว่า การเปิดร้านของตัวเองโดยไม่พึ่งแฟรนไชส์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับกาแฟในระดับนึง แต่ จริงๆ ก็ไม่ได้ยากเกินความตั้งใจ แค่ใส่ใจ เรียนรู้หน่อยก็ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีสอนกันเยอะแยะไปหมด
ก็แค่ยุ่งยากในช่วงเริ่มต้นกว่าแบบแฟรนไชส์เล็กน้อย แต่ คุณสามารถเลือกใช้ของที่ดีที่สุดสำหรับร้านคุณ และปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง
3. กำหนดเป้าหมาย และหาทำเล ให้เหมาะสม กับ ร้านกาแฟของคุณ
ร้านกาแฟแต่ละร้าน มีกลุ่มลูกค้าและ แนวคิด ที่ต่่างกันออกไป คุณต้องเลือกก่อนว่า คุณจะขายกาแฟให้ใคร ? หรือ ขายอะไรบ้างในร้าน อาจมีของอย่างอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับกาแฟอยู่ด้วยก็ได้
อย่างเช่น ร้านแนว Bike Cafe ทั้งหลาย ที่มีทั้ง จักรยาน และ กาแฟ อยู่ในร้านเดียวกัน
หลังจากเลือกแนวร้านแล้ว ก็คิดต่อว่า ร้านของคุณควรจะอยู่ที่แบบไหน ?
4. หาความรู้
อาจจะในช่วงก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มทำ หรือ ตัดสินใจแล้ว กำลังหาทำเล คุณควรที่จะหาความรู้ต่างๆ ทั้งเรื่อง การเรียนชงกาแฟ หัดชิม การเลือกวัตถุดิบและอุปกรณ์ ต่าง ๆ เช่น
เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟ เมล็ดกาแฟ ชา และอื่น ๆ สำหรับที่จะใช้ร้านกาแฟ ของคุณที่กำลังจะเปิดเพื่อที่ เมื่อถึงเวลาเปิดแล้ว คุณจะสามารถทำออกมาได้ดีพอที่ลูกค้าของคุณจะมีความรู้สึกดีๆ ในกาแฟ
หรือสินค้าต่าง ๆ ที่เค้าได้จ่ายเงินให้คุณ (ไม่ใช่ คิดแค่ สักแต่ ชง ขายๆ ไป ห่วย ไม่เป็นไร คนกินไม่เรื่องมากหรอก)
5.กำหนดงบประมาณ
แน่นอนเลย งบประมาณในการลงทุน ธุรกิจ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณต้องกำหนดก่อนเลยว่า ร้านของคุณจะใช้งบในการแต่ง เท่าไหร่ ? และ งบสำหรับอุปกรณ์เท่าไหร่ ?
6.จัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ
หลังจากมีงบประมาณอยู่ในใจแล้ว ก็เลือกอุปกรณ์เลย
เหตุผลที่ ผมแนะนำให้จัดหาอุปกรณ์ทีหลัง เพราะ….ถ้าคุณไม่มีความรู้ ไม่เคยเล่นเครื่องชงกาแฟตัวไหนมาก่อน เวลาคุณไปซื้อเครื่องชงกาแฟ คุณจะเลือกไม่เป็น ฟังแต่คำที่ เซลล์พูด และ ซื้อไป
ซึ่ง อาจจะไม่ใช่เครื่อง ที่ “ใช่” สำหรับคุณ หรือ ในบางครั้ง อาจจะได้เครื่องที่ ราคาสูงกว่า ความสามารถของเครื่อง ก็ได้
ในเรื่องของเมล็ดกาแฟ และ วัตถุดิบหลัก อื่นๆ เลือกให้ดีในราคาที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าเอาแต่ของถูก ๆ ต้นทุนต่ำ ๆ จะได้กำไรเยอะๆ ควรมองที่คุณภาพเป็นอันดับแรก
และไม่ใช่ว่าของที่แพง ๆ จะดีเสมอไป ต้องดูด้วยว่า แพงเนื่องจากอะไร ? แพงการตลาด หรือ ใช้ของดี
7.ซ้อม ก่อนลงสนาม
หลังจากทุกอย่างลงตัวแล้ว ก่อนจะถึงวันเปิดจริง ๆ คุณควรจะ ซ้อม แล้ว ซ้อมอีก เพื่อในวันเปิด คุณจะสามารถทำกาแฟที่ได้คุณภาพ เสริฟให้กับลูกค้าของคุณ
บางคนคิดว่า….”ทำๆไปเถอะ ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้น “……อยากจะถามว่า….ถ้าคุณ ไปทานอาหาร หรือ กาแฟ ในร้านที่เปิดใหม่ และรู้สึก ไม่อร่อย….
คุณจะคิดว่า ” ร้านนั้นยังมือใหม่ และอีกหน่อยก็ทำอร่อยเอง ” หรือไม่ ? . น้อยคนที่จะให้โอกาส นะครับ…. ส่วนใหญ่จะคิดว่า ” ห่วยว่ะ มันได้เงินเราแค่ ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ !!! ”
เพราะฉะนั้น…อย่าใช้ลูกค้าเป็นหนูทดลอง….หรือที่ซ้อมมือ
สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ต้องจำไว้เสมอ คือ ไม่ว่า คุณจะเข้ามาในธุรกิจกาแฟด้วยเหตุผลใด การเปิดร้านกาแฟควรเน้นที่คุณภาพ มากกว่า แค่คิดว่าเป็นช่องทางการหาเงิน หรือ เปิดตามเทรนด์ เพื่อ ความยั่งยืนของร้านในระยะยาว :)
ขอให้โชคดี สำหรับ ผู้ที่กำลังจะเปิดร้านกาแฟทุกท่านนะครับ
Mink